Saturday, November 17, 2018

การกวนเกษียรสมุทร ตอนนางอัปสร


ที่มา:http://www.ch3thailand.com/news/scoop/14034
                กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะ สำหรับวันนี้ฝนไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักเหมือนเช่นเคย แต่อย่าพึ่งเสียใจไปนะคะ เพราะถึงจะไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวแต่วันนี้ฝนก็นำสาระดีๆมาฝาก ที่อาจทำให้การเดินทางท่องเที่ยวในครั้งหน้าของทุกคนมีความน่าสนใจและสนุกมากยิ่งขึ้นค่ะ
               หากพูดถึงนางฟ้าในอุดมคติของทุกคนจะเป็นอย่างไรกันบ้างคะ จะต้องผมยาว ใบหน้าเรียว ริมฝีปากเป็นกระจับ หุ่นผอมเพรียว ผิวขาว หรือเปล่า แต่ถ้าอยู่ที่กัมพูชาตามปราสาทต่างๆในเสียมเรียบแล้วล่ะก็ คงหนีไม่พ้น "นางอัปสร"  ซึ่งถือว่าเป็นดั่งนางฟ้านางสวรรค์ของคนสมัยนั้น แล้วทำไมนางอัปสรถึงเปรียบเสมือนนางฟ้าของผู้คนที่นี่ มีประวัติความเป็นมาและหน้าตาเป็นอย่างไร ไม่รอช้าค่ะ ไปรับชมสาระดีๆของวันนี้กันเลยยย Let's go!!!

ที่มา:https://www.bloggang.com/mainblog.php
               ประวัติความเป็นมา
             
               นางอัปสร มาจากภาษาสันสกฤต โดยคำว่า "อัป" หมายถึง น้ำ ส่วนคำว่า "สร" หมายถึง การเคลื่อนไป รวมกันแล้วหมายถึงการเคลื่อนไปของน้ำ ซึ่งเป็นที่มาหรือต้นกำเนิดของนางอัปสร ที่ได้เกิดมาจากพิธีกวนเกษียรสมุทร ซึ่งถือเป็นพิธีกรรมที่ยิ่งใหญ่ของเหล่าเทพ เทวดา และอสูร ร่วมมือกันทำพิธี เพราะหวังของวิเศษที่จะเกิดขึ้นในพิธีกรรมนี้โดยเฉพาะ "น้ำอมฤต" ที่หากผู้ใดได้ดื่มก็จะกลายเป็นอมตะ และนอกจากนี้ยังเกิดของวิเศษและสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นอีกหลายอย่าง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ "นางอัปสร" นี้นี่เอง

พระนางลักษมี

                โดยมีตำนานกล่าวไว้ว่า หลังจากเสร็จพิธีมีนางอัปสรเกิดขึ้นมาถึง 35 ล้านองค์ แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ไม่มีเทวดา เทพ อสูร องค์ใด รับนางอัปสรไว้เป็นชายาประจำตัวสักองค์ ปล่อยให้นางลอยอยู่บนสวรรค์เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้มีอิสระมากขนาดนั้น เพราะต้องเป็นเสมือนนางสนมคอยบำเรอเหล่าเทพเทวดา อีกทั้งยังถูกใช้ให้ไปปฏิบัติงานในโลกมนุษย์ เนื่องจากนางอัปสรเป็นนางสวรรค์กลุ่มหนึ่งที่มีความสวยงามมาก จึงให้ไปก่อกวนฤาษีที่บำเพ็ญเพียรมานานแล้วคิดว่ามีพลังมากกว่าเทวดาให้ตบะแตก เสร็จแล้วจึงกลับขึ้นสวรรค์ แต่นางอัปสรบางองค์ก็โดนฤาษีสาปแช่งให้มีอันเป็นไป เช่น นางอัปสรที่ชื่อว่า นางรัมภา(มีความเชื่อกันว่าเป็นนางอัปสรที่สวยที่สุด) ถูกสาปให้กลายเป็นหินถึง 10,000 ปี
                แต่มีอีกหนึ่งตำนานได้กล่าวไว้ว่า "พระนางลักษมี" ก็เป็นนางอัปสรอีกองค์หนึ่งเพราะนางอัปสรที่เกิดขึ้นมาจากพิธีกวนเกษียรสมุทรครั้งนี้ได้มีพระนางลักษมีเกิดขึ้นมาด้วย ทั้งยังมีรูปร่างหน้าตาที่สวยดั่งนางสวรรค์เช่นเดียวกับนางอัปสร แต่พระนางลักษมีเป็นเพียงองค์เดียวเท่านั้นที่มีผู้นำไปเป็นชายาประจำตัว ซึ่งได้เป็นถึงชายาของพระวิษณุหรือพระนารายณ์นั่นเอง

ที่มา:https://www.silpa-mag.com/club/art-and-culture/article_18809
                รูปลักษณะ

                นางอัปสร ถือได้ว่าเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ ที่มีรูปร่างและใบหน้าที่งดงาม เชื่อกันว่าแต่ละองค์มีการแต่งกายและใบหน้าที่ไม่ซ้ำกันเลย ประดับไปด้วยเครื่องถนิมพิมพาภรณ์(เครื่องแต่งกาย)เหลือเพียงช่วงตัวที่มีการเปลือยหน้าอกทุกองค์ (โดยนักโบราณคดีกล่าวว่าเป็นการแกะสลักเลียนแบบการแต่งกายของคนสมัยนั้น) อีกทั้งนางอัปสรยังมีความสามารถในการร้องรำทำเพลง และยังสามารถแปลงกายได้อีกด้วย


                งานศิลปะ

                งานศิลปะรูปนางอัปสร สามารถพบได้ที่ปราสาทของเขมร โดยเฉพาะที่เมืองเสียบเรียบ ที่มีปราสาทแกะสลักรูปนางอัปสรไว้อย่างมากมายและสวยงาม ซึ่งส่วนมากจะเป็นงานประติมากรรมสลักนูนสูง โดยจะยกตัวอย่างงานศิลปะเกี่ยวกับนางอัปสร ดังต่อไปนี้

                1.ปราสาทนครวัด

ที่มา:https://www.saulbellow.org/อันดับที่-10-ปราสาทนครวัด/

                นางอัปสรที่นครวัดนี้มีทั้งยืนเดี่ยว จับคู่และยืนจับกลุ่มกัน มีลีลาท่าทางและเครื่องศิราภรณ์ไม่ซ้ำกันเลย ซึ่งปราสาทนครวัดแห่งนี้ได้มีการสลักภาพนางอัปสรมากถึง 1,635 องค์เลยทีเดียว

ที่มา:http://www.sac.or.th/databases/seaarts/th/sculptureth/กัมพูชา
                โดยนางอัปสรที่สลักอยู่บนผนัง มีพระพักตร์สี่เหลี่ยมทรงกระบังหน้า ด้านบนมีศิราภรณ์ประดับด้วยช่อดอกไม้ 3 แถว ตุ้มหูเป็นพู่ห้อยขนาดใหญ่ มือซ้ายยกขึ้นถือพานดอกไม้ ทรงผ้านุ่งยาว มีชายผ้าพาดข้อขาขวาซึ่งเป็นชายผ้ารูปสามเหลี่ยมทับซ้อนกัน ส่วนทางซ้ายมีชายผ้ารูปสามเหลี่ยมชักออกมายาวจรดพื้น ทรงเข็มขัดเป็นแผงขนาดใหญ่ประดับพู่ห้อยโดยรอบ อีกทั้งการยืนก็หันเท้าไปในทิศทางเดียวกันหมดเหมือนงานจิตรกรรมของอียิปต์
                นอกจากนี้ ปราสาทนครวัดยังมีการแกะสลักภาพนางอัปสรอีกหลายรูปแบบ เช่น
  • นางอัปสรยิ้มเห็นฟัน อยู่แถวซุ้มประตูชั้นแรกก่อนถึงตัวปราสาท ที่ถือเป็น 1 ใน 2 ของนางอัปสราทั้งหมดที่บนใบหน้ามีรอยยิ้มเห็นฟัน
  • นางอัปสรผ้าหลุด มีอยู่หลายองค์รอบๆตัวปราสาท ซึ่งต้องสังเกตกันดีๆจึงจะเห็น
  • นางอัปสรสุดอึ๋ม เมื่อขึ้นไปบนปรางค์ประธานฝั่งขวา ต้องมองขึ้นไปด้านบนจะเห็นนางอัปสรที่มีลักษณะอวบอึ๋มกว่าบรรดานางอัปสรทั้งหมด
  • นางอัปสรตะปุ่มตะป่ำ มีอยู่บางซอกบางมุมในตัวปราสาท เชื่อกันว่าที่เป็นเช่นนี้ เพราะช่างสมัยนั้นคงยังแกะสลักไม่เสร็จ
  • นางอัปสรลิ้น 2 แฉก อยู่บริเวณองค์ประธาน


นางอัปสรยิ้มเห็นฟัน


                2.ปราสาทบันทายศรี

ที่มา:https://www.tnamcot.com/view/5b4eafd3e3f8e4f6018621e8
ที่มา:http://www.sac.or.th/databases/seaarts/th/sculptureth/กัมพูชา/item/490-นางอัปสรปราสาทบันทายศรี.html

                นางอัปสรเกล้ามวยผมไปด้านหลัง เปลือยกายท่อนบนไม่สวมเสื้อ สวมเครื่องประดับ นุ่งผ้านุ่งยาวเรียบไม่มีริ้ว มีการชักชายผ้าออกมาตรงขอบผ้านุ่ง รวมถึงปรากฎเส้นริ้วตรงกลางผ้านุ่งคล้ายจีบนางในสมัยก่อนเมืองพระนคร แต่มีลักษณะลายแบบชายผ้าหางปลาทวารบาลอยู่ภายในซุ้มเรือนแก้ว เป็นซุ้มคดโค้งตามแบบศิลปะบันทายศรี

                3.ปราสาทตาพรหม

ที่มา:https://blog.bangkokair.com/เที่ยว-เมืองเสียมเรียบ-ด/
ที่มา:http://www.sac.or.th/databases/seaarts
                นางอัปสรที่สลักอยู่บนผนัง มีพระพักต์สี่เหลี่ยม พระพักต์เป็นแบบศิลปะบายน นั่นคือ หลับตาและมีรอยยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ผมทรงกระบังหน้า ด้านบนมีศิราภรณ์ประดับด้วยช่อดอกไม้ 3 แถว ตุ้มหูเป็นพู่ห้อยขนาดใหญ่ มือซ้ายยกขึ้นถือดอกไม้ ใส่ผ้านุ่งยาว ด้านข้างผ้าานุ่งทั้ง 2 ด้านมีชายผ้ารูปสามเหลี่ยมคล้ายหางปลา ชักออกมายาวจรดพื้น ใส่เข็มขัดเป็นแผงขนาดใหญ่ ประดับด้วยพู่ห้อยโดยรอบ

                4.ปราสาทบายน
ที่มา:http://worldcivil14.blogspot.com/2016/12/blog-post_83.html
ที่มา:http://www.adirexphotogallery.com
                นางอัปสรที่บายนจะมีความแตกต่างจากนครวัด สังเกตจากเครื่องประดับและการนุ่งผ้าที่ย่นลงมาด้านหน้า มีขอบผ้านุ่งออกมาเล็กน้อยรอบสะโพกและไม่มีริ้ว อีกทั้งจำนวนนางอัปสรที่บายนมีค่อนข้างน้อย แต่เป็นนางอัปสรที่มีใบหน้าสวยงามมีรอยยิ้มที่ดูอ่อนหวาน ราวกับยังมีชีวิตอยู่

                จะเห็นได้ว่ามีนางอัปสรจำนวนมากนับพันๆองค์ แต่นางอัปสรแต่ละองค์ไม่ได้มีประวัติความเป็นมาแสดงให้เห็น มีเพียงลักษณะนางอัปสรที่มีการสลักไว้ ซึ่งมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไปเยอะแยะมากมาย ตามปราสาทของเขมรเป็นส่วนใหญ่นั่นเอง

               เป็นยังไงกันบ้างคะกับสาระดีๆที่ฝนนำมาฝากทุกคนในวันนี้ เห็นถึงความงดงามของนางอัปสรแต่ละที่กันแล้วใช่ไหมคะ โดยลักษณะของนางอัปสรนี้ก็เป็นเพียงนางในอุดมคติที่แตกต่างกันไปตามช่างที่แกะสลัก แล้วนางอัปสรในความคิดของทุกคนเป็นแบบไหนกันคะ

และสำหรับวันนี้ฝนก็ต้องขอตัวลากันไปอีกแล้ว พบกันใหม่ในครั้งหน้า ฝนจะนำข้อมูลสาระดีๆอะไรมานำเสนออีกนั้น ฝากติดตามด้วยนะคะ



อ้างอิง

พล อิฏฐารมณ์. (2560). "นางอัปสร"โสเภณีแห่งสรวงสวรรค์. สืบค้นเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2561. จากhttps://www.silpa-mag.com/club/miscellaneous/article_4267

รศ.ดร.เชษฐ์ ติงสัญชลี. (ม.ป.ป). นางอัปสร ปราสาทตาพรหม. สืบค้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2561. จากhttp://www.sac.or.th/databases/seaarts/th/sculptureth/กัมพูชา/item/507-นางอัปสรปราสาทตาพรหม.html  

รศ.ดร.เชษฐ์ ติงสัญชลี. (ม.ป.ป). นางอัปสร ปราสาทบันทายศรี. สืบค้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2561. จากhttp://www.sac.or.th/databases/seaarts/th/sculptureth/กัมพูชา/item/490-นางอัปสรปราสาทบันทายศรี.html

รศ.ดร.เชษฐ์ ติงสัญชลี. (ม.ป.ป). นางอัปสร ปราสาทนครวัด. สืบค้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2561. จาก
www.sac.or.th/databases/seaarts/th/sculptureth/กัมพูชา/item/499-นางอัปสรปราสาทนครวัด.html

วิกิพีเดีย สาราณุกรมเสรี. (2561). เกษียรสมุทร. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2561. จากhttps://th.wikipedia.org/wiki/เกษียรสมุทร

วิกิพีเดีย สาราณุกรมเสรี. (2561). อัปสร. สืบค้นเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2561. จากhttps://th.wikipedia.org/wiki/อัปสร

อาจารย์เศรษฐมันตร์ กาญจนกุล. (2548). นางอัปสร. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ:บริษัท บุ๊คไทม์จำกัด

CH3. (2561). เปิดตำนาน"กวนเกษียรสมุทร". สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2561. จากhttp://www.ch3thailand.com/news/scoop/14034



No comments:

Post a Comment