และเราก็เข้าสู่เดือนพฤศจิกายน
เดือนแห่งช่วงปลายฝนต้นหนาวกันแล้วนะคะ เป็นยังไงกันบ้างคะทุกคน
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย หลายคนคงไม่ได้ออกไปไหนเนื่องจากฝนตก
แต่ไม่ต้องเหงาไปนะคะ วันนี้ฝนมีสาระน่ารู้มาฝากทุกคนกันอีกแล้วค่ะ
ประวัติศาสตร์
วัดอนันดาตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก มองเห็นเด่นชัดเป็นวัดสีขาว สร้างโดยพระเจ้ายันสิตถา (จันสิทธะ) เมื่อปี 1634 โดยคำว่า อนันดา หรือ อานันทะ หมายถึง ปัญหาที่ไม่สิ้นสุดของพระพุทธเจ้า เป็นเจดีย์ที่ยอมรับกันว่างดงามที่สุดในพุกาม เป็นการออกแบบที่สมดุลลงตัวมากที่สุด มีพื้นที่ใช้สอยมาก มีเทคนิคการก่ออิฐที่ถ่ายน้ำหนักให้ตัวอาคารได้ดีเยี่ยม นับได้ว่าเป็นวิหารที่มีความสวยงามสุดในพุกาม ได้รับการยกย่องว่าคือสุดยอดพุทธศิลป์สกุลพุกาม ถือเป็นต้นแบบสถาปัตยกรรมพม่าในยุคต้นของพุกาม
รูปแบบสถาปัตยกรรม
มีรูปแบบเหมือนถ้ำนันทมูล (นันทาเทวี) ใกล้เทือกเขาหิมาลัย แผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างและยาวด้านละ 66 เมตร มีมุขขนาดใหญ่ยื่นออกมาทั้ง 4 ด้าน มีประตูทางเข้าออกทั้ง 4 ด้าน ผังมีลักษณะเป็นกากบาทสูง 12 เมตร มีหลังคาคลุม 3 ชั้น ลาดลงมาลดหลั่นซ้อนกัน มีเจดีย์ที่ตรงหัวมุมของหลังคาเรียงรายอยู่ เหนือหลังคามีฐาน 3 ชั้นซ้อนรองรับเจดีย์ทรงศิขระ มียอดเจดีย์เป็นระฆังขนาดเล็ก มีความสูงจากพื้นดินถึงยอดเจดีย์ 56 เมตร
ผนังวิหารด้านนอกประดับด้วยแผ่นดินเผาเคลือบ
ทำเป็นเรื่องพุทธชาดก 550 ชาติ
และพุทธประวัติตอนสำคัญประดับไว้ที่ผนังตามชั้นต่างๆ
มีจารึกภาษามอญกำกับอยู่ด้านล่าง ด้านในวิหารมีการเดินแคบ 2 ชั้น
ผนังทั้งด้านนอกและด้านในของทางเดินเจาะเป็นช่องจระนำ ประดิษฐานพระพุทธรูปสลักจากหิน
สูงประมาณ 50 เซนติเมตร จำนวน 1,800 องค์
ทำเป็นปางต่าง ๆ มากมายหลายปาง
ตรงกลางวิหารชั้นล่างก่อเป็นรูปสี่เหลี่ยม แต่ละด้านทำเป็นห้องประดิษฐานพระพุทธรูปยืน 4 องค์ สูงราว 10 เมตร แกะสลักจากไม้สักทั้งองค์ เป็นอดีตพระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ ถูกไฟไหม้ทำลายไป 2 องค์คือ ด้านทิศตะวันออกกับทิศตะวันตก มีการบูรณะซ่อมสร้างขึ้นใหม่ทั้ง 2 องค์
สิ่งที่น่าสนใจ
วิหารแห่งนี้มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสใหญ่โต
สูงสง่า มีมุขยื่นออกไปทั้ง 4 ด้าน
แต่ละช่องประดิษฐานอดีตพระพุทธเจ้าทั้ง 4 องค์ ได้แก่
1) พระกกุสันธะ ในทิศเหนือ
2) พระโกนาคมน์ ในทิศตะวันออก
3) พระกัสสปะ ในทิศใต้
4)พระสมณโคดม ในทิศตะวันตก
โดยพระแต่ละองค์สูงกว่า 10 เมตร สีทองอลังการสวยงามมาก โดยเฉพาะองค์พระสัสสปะจะมีลักษณะพิเศษอีกอย่างคือ เวลายืนไกลๆ จะเห็นองค์พระยิ้ม แต่ว่าพอเดินเข้าใกล้ๆ จะกลายเป็นหน้าบึ้งแทน และสิ่งที่น่าทึ่งของวิหารแห่งนี้ก็คือ ที่ช่องหลังคาเจาะเป็นช่องเล็กๆ ให้แสงสว่างส่องลงมาต้ององค์พระ ทำให้มีแสงสว่างอย่างน่าอัศจรรย์ และนี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวพม่า เพราะเลื่อมใสและศรัทธา และมาชมความงดงามของพระพุทธรูปดังกล่าว
สิ่งที่น่าสนใจอีกสิ่งหนึ่งคือ บานประตูไม้ขนาดยักษ์ทั้ง 4 บานหน้าพระพุทธรูปยืนสูงประมาณ 7เมตร แกะสลักอย่างสวยงาม เป็นบานประตูที่พระเจ้าบุเรงนอง (ผู้ชนะสิบทิศ) สร้างถวายอนันดาเจดีย์ครั้งที่ยกทัพมายังภาคเหนือของพม่าเมื่อ 400 ปี เศษมาแล้ว สิ่งที่น่าชมคือ รูปแกะสลักสิงโตที่ประดับอยู่ส่วนบนของบานประตู มีความงดงามประณีตมาก อนันดาเจดีย์เป็นผลงานชิ้นเอกและชิ้นสุดท้ายของพระเจ้ากยันสิตถา เพราะพระองค์ได้สั่งให้ประหารชีวิตช่างฝีมือหมดเพื่อมิให้ไปสร้างที่ใดที่มีความงดงามเช่นนี้ได้อีก
ตำนาน
ตามตำนานเล่าว่าวิหารนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าจันสิทธา อันเนื่องมาจากการจาริกแสวงบุญมายังดินแดนพุกาม ของพระอรหันต์ 5 รูป พระอรหันต์เหล่านั้นได้ทูลถึง ลักษณะวัดในอินเดีย ถวายพระเจ้าจันสิทธา พระองค์พอพระทัยมาก และโปรดเกล้าให้สร้างวัดขึ้นตามลักษณะที่พระอรหันต์พรรณนา แล้วตั้งชื่อว่า “วัดอนันดา” ตามชื่อถ้ำที่อยู่ของพระอรหันต์ทั้ง 5 องค์นั้น
เปิดทำการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ข้อควรปฏิบัติ : ถอดรองเท้าก่อนเข้าศาสนสถานในพม่า และควรเตรียมถุงใส่รองเท้าเพื่อป้องกันรองเท้าสูญหายอีกด้วย
ค่าเข้า : 25,000 จ๊าด หรือประมาณ 600 บาท ใช้ได้ต่อเนื่อง 5 วัน โดยมีจำหน่ายในจุดต่าง ๆ ก่อนเข้าสู่เขตเมืองเก่า
การเดินทาง : ต้องนั่งจากกรุงเทพ ถึง Yangon สายการบินเมียนมาร์เนชันแนลแอร์ไลน์ ราคาประมาณ 3,000-4,000 บาท และต่อรถบัส รถไฟ หรือขึ้นเครื่องไปลงพุกามได้ ดังนี้
👉รถบัส จะมีรถบัสของออง มิงกาลาร์, ย่างกุ้ง ใช้เวลา 10 ชั่วโมง
ราคาประมาณ 718 บาท
👉รถไฟ จะมีรถไฟของ Myanmar Railways ใช้เวลา 17 ชั่วโมง
ราคาประมาณ 437 บาท
👉เครื่องบิน สายการบิน Air Thanlwin ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที ราคาประมาณ 3,397 บาท
เป็นยังไงกันบ้างคะกับวัดอนันดาแห่งนี้
มีความสวยงามและมีเอกษณ์ทางด้านศิลปะที่ถือเป็นศิลปะยุคแรก ๆ ของพม่าเลยก็ว่าได้ ซึ่งหากใครมีโอกาสได้มาท่องเที่ยวประเทศพม่า
วัดแห่งนี้เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ห้ามพลาดเลยค่ะ
No comments:
Post a Comment